Thaiherbs01
วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559
รักแร้ขาวใส สูตรง๊ายง่าย
DIY แสนง่าย วัตถุดิบหาได้ทั่วไป สูตรนี้ สรรพคุณ ช่วยขจัดริ้วรอยและความหมองคล้ำที่ไม่พึ่ง จากการถอน โกน หรือการหมักหมมอุดตันของสิ่งสกปรกต่างๆ
ส่วนผสม
น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
แตงกวา 1 ผล
ผงขมิ้น 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาวสด 1/2 ผล
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกแตงกวา แล้วคั่นเอาแต่น้ำ
2. นำผงขมิ้นและน้ำมะนาวเทลงไปผสมกับน้ำแตงกวา คนให้เข้ากัน
3. ใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวทาเป็นวงกลมที่บริเวณรักแร้ทั้ง 2 ข้าง รอให้ผิวแห้งสะอาด
4. จากนั้นจึงใช้น้ำแตงกวาที่ผสมแล้วทาทับลงไป
5. ทิ้งไว้นาน 15-20 นาที
6. ใช้น้ำสะอาดล้างออก พร้อมกับเช็ดให้แห้ง
7. หมั่นทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 1 เดือนจะเริ่มสังเกตว่าความหมองคล้ำใต้วงแขวนจะจางลงเรื่อยๆ
by.Panya
https://line.me/R/ti/p/%40by.panya
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559
วิธีการเลือกซื้อเครื่องสำอาง
การซื้อเครื่องสำอางต้องระวังอย่าเลือกใช้ของราคาถูกเกินไป เพราะอาจจะไม่ได้คุณภาพดีพอ สารเคมีทุกชนิดที่ใช้กับเครื่องสำอางมักมีราคาแพง เพราะต้องผลิตให้ได้มาตราฐานทางยา หรือมาตราฐานเครื่องสำอาง (Medical Grade or Cosmetic Grade) คือจะไม่มีสิ่งสกปรกหรือสารพิษ (Impurity or Toxin) เจือปน การมีสารกันเสียใส่มาด้วยอาจเป็นของจำเป็นเพราะต้องป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และเชื้อราเข้ามาปนเปื้อน
นอกจากนี้เครื่องสำอางเกือบทั้งหมดที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด มักไม่บอกวันหมดอายุ (Expired date) ถ้าเราเห็นแต่วันผลิตให้บวกไปอีก 2 ปี จะเป็นวันหมดอายุ และขอแนะนำว่าอย่างซื้อเครื่องสำอางมากักตุนเอาไว้ เพราะคุณภาพจะลดลงตามเวลา ถึงแม้เราจะไม่เปิดออกมาใช้ก็ตาม
by.Panya
วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559
มากินผลไม้หลากสี เพิ่มฟลาโวนอยด์ให้กับผิวกัน
ฟลาโวนอยด์เป็นกลุ่มของเม็ดสีของพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง สารเหล่านี้มีหน้าที่แสดงสีสันของผัก ผลไม้ รวมไปถึงดอกไม้ เพื่อดึงดูดแมลงและสัตว์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการปกป้องพืชจากสิ่งแวดล้อม ฟลาโวนอยด์บางชนิดยังทำหน้าที่เป็นสารต้านโรคภูมิแพ้ (antiallergic) สารต้านมะเร็ง (anti-carcinogenic) สารต้านไวรัส (anti-viral) และสารต่อการอักเสบ (anti-inflammatory)
ได้มีการระบุ และจัดชนิดของสารฟลาโวนอยด์มากกว่า 4,000 ชนิด แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่มีการศึกษาคุณสมบัติอย่างจริงจัง โดยมีสารฟลาโวนอยด์อยู่ 2 ประเภทที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ คือ โพรแอนโธไซอานิน (proant-hocyanins) มักพบมากในองุ่น และเปลือกไม้สีชมพู และ โพลีฟีนนอล (polyphenols) พบในชาเขียว
by Panya
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
วิธีปฎิบัติตนตามแนวสุขภาพ (Healthy Lifestyle) เพื่อลดปัญหาริ้วรอยและตำหนิบนใบหน้า
มหาวิทยาลัยแพทย์แมรี่แลนด์ (University of Maryland Medicine) ได้แนะนำการดำเนินวิถีชีวิตประจำวันเพื่อปกป้องผิว (Dialy Preventive Skin Care) มีบางตอนน่าสนใจ ตามนี้คับบปม
- ควรออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้มีการหมุนเวียนของโลหิต
- กินอาหารที่มีข้าวซ้อมมือ ผักและผลไม้สดๆ น้ำมันพืชให้ใช้น้ำมันมะกอก
- ลดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อประโยชน์ต่อผิวหนัง
- งดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่นอกจากจะเพิ่มริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว ผู้สูบยังมีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนัง ชนิดเนื้องอกเซลล์หนังกำพร้า (Squamous Cell Cancer) โดยเกิดมากกว่าพวกไม่สูบบุหรี่ถึง 50%
ยาทาผิวที่มีวิตามินเอ (Vitamin A : Retinol, Retinaldehyde) หรืออนุพันธ์ของวิตามินเอ คือ กรด เรติโนอิก (Retinoic Acid) เช่น Tretinoin ไดพิสูจน์ทางวิชาการแล้วว่ามีประโยชน์กับผิวที่เสียเพราะแสงแดด
ข้อมูลจากหนังสือ ผิวสวย ของ ศ.ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน
Dr.First
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
มาทำสวยด้วย มะกรูด กัน!!!
มะกรูด…นอกจากจะนำมะกรูดมาปรุงอาหาร แล้วนั้น มะกรูดยังสามารถเสกสรรความงามให้กับบรรดาสาวๆ ผู้หลงใหลในการบำรุงความงามด้วยวิธีธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เรามาลองดูกันนะคับ ว่าเจ้าลูกนี้จะเนรมิตความงามได้ขนาดไหน go go !!!
สูตรขัดผิวกระจ่างใส
นำผลมะกรูด 1 ลูก มาผ่าครึ่ง แล้วคั้นน้ำออกมา จากนั้นให้นำน้ำมะกรูดมาผสมกับนมสด 1 ถ้วย ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย และน้ำผึ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมด
นำมาพอกผิวให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที จากนั้นให้ใช้ใยบวบชุบน้ำขัดผิวอย่างเบามือ เพื่อขัดเซลล์ผิวหมองคล้ำให้หลุดลอกออกไป เมื่อขัดเสร็จแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น ใช้ผ้าขนหนูซับตัวให้แห้ง จากนั้นก็ให้ทาครีมบำรุงผิวตามปกติ
สูตรลดความหยาบกร้าน ข้อศอก มือ และเท้า มะกรูด 2 ผล เกลือป่น 2 ช้อนชา
ผ่ามะกรูด 1 ลูกเป็น 2 ซีก แกะเอาเมล็ดออก แล้วนำมะกรูดโรยเกลือ ถูบริเวณผิวหยาบกร้าน เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำ แล้วทาครีมบำรุงผิว ควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้เซลล์ผิวหนังที่ตายหลุดลอกออกไป และกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาผิวจะขาวเนียนนุ่มขึ้น
เครดิต : อินเตอร์เน็ต
Dr.First
วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559
ส้ม ส้ม เพื่อผิวนุ่ม ชุ่มชื่น
ส้มอุดมไปด้วยเส้นใยธรรมชาติ วิตามินซี เกลือแร่ และคอลลาเจนในปริมาณที่สูง ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น และมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง ชุ่มชื่นขึ้น ง่ายๆเลยคับ โดยนำเปลือกส้มมานวดแล้วสับให้ละเอียด จากนั้นนำไปทาบริเวณใบหน้า คอ และไหล่ แล้วปิดทับด้วยผ้าบางๆ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เสร็จแล้วใช้ครีมบำรุงผิวตามปกติ สูตรนี้จะช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้าได้มากเลยทีเดียวคับ หรือจะผสมเนื้อส้ม 1 ลูก กับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย นำมาปั่นรวมกัน โดยไม่ต้องปั่นละเอียดมากนัก นำส่วนผสมที่ได้มาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตา และริมฝีปากเอาไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยให้ผิวเรานุ่ม ชุ่มชื่น สุขภาพดีและเปล่งปลั่ง ในราคาแสนประหยัด 555
Dr.First
วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559
ใบบัวบก หน้าเด็ก
ถ้าพูดถึงใบบัวบก หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงว่าแก้ช้ำในอย่างที่เราพูดกันบ่อยๆ แต่จริงๆ แล้วสรรพคุณทางด้านความงามอันดีเยี่ยมของใบบัวบกก็คือ ทำให้เราหน้าเด็ก..ย้ำนะ "หน้าเด็ก"
ใบบัวบก เป็นพืชเขตร้อน มีสรรพคุณที่หลายๆ ประเทศอย่างจีนและอินเดียรู้จักกันดี และมีความเชื่อเกี่ยวกับสรรพคุณของใบบัวบกในด้านความงามที่มีมาอย่างช้านาน ว่า ‘ใบบัวบกเพียงแค่ 2 ใบก็ช่วยให้บอกลาความแก่ไปได้เลย' เขาว่างั้นนะ
และความเชื่อโบราณนี้ได้ถูกยืนยันจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยการวิจัยจากห้องทดลอง พบว่าใบบัวบกมีสารที่ให้พลังงานแก่เซลล์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยสมานผิว และลดริ้วรอยแห่งวัย นอกจากนี้ ใบบัวบกยังมีฤทธิ์ช่วยเสริมประสิทธิภาพความทรงจำ ปรับปรุงระบบการรับส่งกระแสประสาท ในต่างประเทศมีการทดลองให้เด็กๆ รับประทานใบบัวบก พบว่าทำให้ได้คะแนนดีขึ้นในการทดสอบเพื่อวัดระดับสติปัญญา...แจ่มเลยหล่ะคับ
ว่าแล้วก็มาว่ากันด้วย เคล็ดลับสูตรหน้าเด็กด้วยใบบัวบก ในใบบัวบกมีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น
1. นำใบบัวบกมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นฝอยละเอียด แล้วนำไปตำหรือปั่นให้ละเอียด
2. นำใบบัวบกที่ปั่นแล้วมาผสมน้ำแร่แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เก็บเฉพาะส่วนน้ำไว้ใช้ สูตรนี้หลังจากทำแล้วสามารถเก็บไว้ใช้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์
3. ใช้สำลีชุบโทนเนอร์ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สูตรนี้ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เราจะหน้าเด็กได้ไม่ยาก 555 สู้ๆ ทำเป็นประจำทุกคืนนะคับ
Dr.First
วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559
ผิวในช่วงอายุใดถือว่าเป็นผิวที่ดีที่สุด
ช่วงอายุ 20 ปี ถือเป็นช่วงเวลาทองของผิวเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นช่วงที่การทำงานต่างๆ ของผิวเป็นระบบมากที่สุดทั้งระบบการผลัดเซลล์ผิวที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 28 วัน ฮอร์โมนที่ลดลงสู่ระดับปกติ ทำให้อาการผิวมันและสิว จากช่วงวัยรุ่นเริ่มหายไป อีกทั้งโครงสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินที่ยังแข็งแรงทำให้ผิวยืดหยุ่นไร้ริ้วรอย ช่วงวัยนี้จึงเป็นช่วงที่ผิวจะเปล่งประกายมากที่สุด แม้จะไม่ได้รับการบำรุงมากมาย เป็นสาเหตุให้สาวๆหลายคนละเลยการดูแลผิวที่ควรจะทำอย่างการทำความสะอาดและบำรุงเป็นประจำด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือการป้องกันแสงแดด ส่งผลให้ผิวอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาสู่วัย 30 ปี
Dr.First
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)